“คุณหมอคะ ๆ ฉันเป็นอะไรก็ไม่รู้ 2-3 วันมานี้ ปวดปัสสาวะบ่อยเหลือเกิน เข้าห้องน้ำได้ไม่ถึง 15 นาทีก็รู้สึกปวดอีกแล้ว ปัสสาวะก็ออกครั้งละนิดหน่อย แถมแสบๆอีกด้วย รู้สึกเหมือนปัสสาวะไม่สุด มีปัสสาวะเหลือค้างอยู่ยังไงยังงั้น และยังรู้สึกปวดหน่วงๆ ท้องน้อยอีกด้วย ฉันเป็นอะไรคะคุณหมอ”
ค่ะ สวัสดีค่ะ ดิฉันแพทย์หญิงพรวิไล ตันตระรุ่งโรจน์นะคะ วันนี้รเริ่มต้นด้วยปัญหาที่พบบ่อยในผู้หญิงค่ะ นั่นคือ กระเพาะปัสสาวะอักเสบ สาเหตุที่พบบ่อยก็เพราะว่า ท่อปัสสาวะของผู้หญิงนั้นสั้น (คือประมาณ 4-5 ซม.) และอยู่ใกล้ทวารหนัก เชื้อโรคต่างๆ จึงอาจจะมาปนเปื้อนปลายท่อปัสสาวะและย้อนขึ้นมาในกระเพาะปัสสาวะได้ ในขณะที่ความยาวของท่อปัสสาวะในผู้ชายนั้นจะยาวประมาณ 20 ซม. โอกาสติดเชื้อจึงน้อยกว่ากันค่ะ
ปัจจัยที่ส่งเสริมให้เป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบคือ การอั้นปัสสาวะ เพราะโดยปกติแล้วในกระเพาะปัสสาวะจะพบแบคทีเรียเพียงเล็กน้อย แต่เมื่ออั้นปัสสาวะ แบคทีเรียมีเวลาเพิ่มจำนวนและเจริญเติบโตจึงทำให้เกิดการอักเสบได้ นอกจากนี้ เมื่อกระเพาะปัสสาวะอยู่ในภาวะยืดตัว คือมีน้ำปัสสาวะอยู่เต็ม จะทำให้ความสามารถในการขจัดเชื้อโรคของเยื่อบุผิวกระเพาะปัสสาวะลดลง จึงเกิดการติดเชื้อง่ายขึ้นค่ะ สำหรับผู้หญิงวัยทองที่มีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลงก็พบโรคนี้บ่อยขึ้นได้เช่นกัน เพราะเยื่อบุกระเพาะปัสสาวะและเยื่อบุช่องคลอดบางลง เชื้อโรคจึงเพิ่มจำนวนได้มากขึ้น ปัจจัยเสริมอื่นๆ ที่พบได้ คือ การมีเพศสัมพันธ์ และการตั้งครรภ์โดยเฉพาะช่วง 2-3 เดือนแรก ก็ส่งเสริมให้เกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้ง่ายขึ้นเช่นกันค่ะ
ถ้าสงสัยโรคนี้นะคะ ควรรีบไปตรวจค่ะ แพทย์จะตรวจปัสสาวะเพื่อวินิจฉัยโรคและให้ยาปฏิชีวนะเพื่อฆ่าเชื้อโรคค่ะ อย่าปล่อยทิ้งไว้นะคะ เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้ อาจจะมีปัญหาเชื้อแบคทีเรียลุกลามขึ้นไปยังไต ทำให้เกิด ไตวาย นิ่วในไต หรือกรวยไตอักเสบ และเชื้ออาจจะเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้ช็อคและเสียชีวิตได้ค่ะ
สำหรับวิธีป้องกันโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ พอจะเดาได้ไหมคะ ถูกแล้วค่ะ อันดับแรกคือ อย่าอั้นปัสสาวะและปัสสาวะออกให้หมด ควรดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร รับประทานอาหารที่ดีและรักษาสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อภูมิต้านทานจะได้ต่อสู้เชื้อโรคได้ สำหรับการเช็ดทำความสะอาดอวัยวะเพศและทวารหนัก ควรเช็ดไปทางด้านหลังนะคะ ไม่ใช่ย้อนมาด้านหน้าเพราะจะเกิดการติดเชื้อได้ นอกจากนี้ควรปัสสาวะภายหลังการมีเพศสัมพันธ์ การว่ายน้ำ หรือการอบซาวน่าเพื่อลดการเคลื่อนตัวของเชื้อโรคไปยังกระเพาะปัสสาวะค่
พระธรรมสุภาษิต 8:33 ได้บอกไว้ว่า “จงฟังคำสั่งสอน และจงฉลาด และอย่าเพิกเฉยเสีย” ก็ขอให้ท่านผู้ฟังทุกท่าน มีความสุขและห่างไกลจากโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบนะคะ พบกันใหม่ในครั้งหน้า ขอพระเจ้าทรงอวยพระพรค่ะ