เมื่อม่านที่ปิดบังพระรัศมีภาพแห่งพระสิริของพระคริสต์ได้ถูกเปิดออก พระผู้ช่วยให้รอดของเราได้ทรงสำแดงพระองค์ในฐานะองค์ผู้สูงสุดและองค์บริสุทธิ์ พระองค์ไม่ได้แยกพระองค์อยู่อย่างโดดเดี่ยว หรือไม่สนใจผู้ซึ่งปรารถนาความช่วยเหลือแต่อย่างใด แต่ทว่ามีทูตสวรรค์ผู้บริสุทธิ์ล้อมรอบพระองค์อยู่นับล้าน และทูตสวรรค์ทุกองค์เหล่านั้นก็พร้อมที่จะกระทำให้พันธกิจของพระองค์ที่มีต่อมนุษย์นั้นสำเร็จลงให้จงได้
องค์พระผู้ช่วยให้รอดทรงอยู่ในท่ามกลางคำร้องทูลของมนุษย์ทุกๆ คน พระองค์ทรงออกมาจากบัลลังก์ที่ประทับของพระองค์เพื่อมาฟังคำร้องทูลของบรรดาประชากรของพระองค์ จิตใจของพระองค์เต็มล้นไปด้วยความรักและความเมตตาต่อพวกเขา แต่ทว่าสิ่งที่นำความโศกเศร้าอันยิ่งใหญ่มาสู่พระองค์ก็คือ เหล่าผู้ซึ่งไม่เข้าใจถึงน้ำพระทัยของพระองค์ที่เรียกร้องให้พวกเขาหันคืนกลับมาจากการที่ไม่ต้องถูกพิพากษาด้วยพระคำของพระองค์ นับเดือนนับปีที่ผู้คนปรารถนากระทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องและไม่ยอมรับคำแนะนำของพระองค์
เราจะต้องไม่เศร้าเสียใจที่พระผู้ช่วยให้รอดของเราดูเหมือนจะรักใครบางคนมากกว่าอีกคนหนึ่ง ในครั้งหนึ่งเหล่าสาวกของพระองค์ได้มาพบกับพระเยซูคริสต์และได้ตั้งคำถามว่า “ผู้ใดจะเป็นใหญ่ในสวรรค์?” แล้วพระเยซูคริสต์ได้เรียกเด็กเล็กๆ คนหนึ่งมาพาพระองค์แล้วให้เด็กคนนั้นนั่งลงท่ามกลางเหล่าสาวกนั้นแล้วบอกว่า “เราบอกความจริงกับท่านทั้งหลายว่า ถ้าพวกท่านไม่กลับใจและเป็นเหมือนเด็กเล็กๆ ก็จะเข้าในแผ่นดินสวรรค์ไม่ได้เลย” (มัทธิว 18:1-3)….
เราทั้งหลายได้มีส่วนร่วมในพันธกิจอันศักดิ์สิทธิ์ที่ยิ่งใหญ่ เราได้ติดตามพระผู้ช่วยให้รอดของเราอย่างใกล้ชิด พระองค์จะทรงนำพาเราไปยังที่สูง และสูงขึ้นไปในความจริง “ท่านทั้งหลายจะได้เห็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่านี้” พระองค์ได้ทรงตรัส “จะมีเพียงแต่ผู้ที่ตั้งใจอย่างจริงจังเท่านั้น” พระองค์ทรงเปิดหนังสือที่บันทึกนามของผู้ที่ติดตามพระองค์อยู่ในนั้น และรายชื่อของพวกเขาได้ถูกบันทึกอยู่โดยที่เป็นรายชื่อของผู้ไม่ซื่อสัตย์ต่อพระองค์ และผู้ที่กระทำตามพระบัญญัติของพระองค์อยู่ในนั้น ในทุกๆ วันบันทึกเหล่านี้ได้ถูกสำแดงให้เห็นถึงการกระทำของบุคคลเหล่านั้นอย่างชัดแจ้ง ซึ่งพระองค์ได้ทรงพยายามช่วยเหลือคนเหล่านี้ด้วยความรัก ความเมตตา ความอ่อนโยน ความสุภาพ และความทะนุถนอมตลอดมา
พระคริสต์ทรงได้ยินทุกๆ คำของบุตรของพระองค์ที่ทูลต่อพระองค์ พระองค์ทรงรู้เมื่อเขาเหล่านั้นกำลังมีจิตใจที่ว้าวุ่นกับการงานของเขาเพราะผู้คนที่อยู่รอบข้าง, เพราะการงานอันยากลำบากของเขา หรือแม้กระทั่งภาระงานอันยิ่งใหญ่ที่พวกเขาจะต้องแบกรับภาระไป ให้เราช่วยให้ผู้เขายังอยู่ในความบาปนั้นได้เปิดดวงตาของตนขึ้นเขาจะได้เห็นองค์พระผู้ช่วยให้รอดกำลังเข้ามาใกล้เขา แม้ว่าเขาจะถูกกล่าวร้ายจะถูกตำหนิต่อหน้าพระองค์ และแม้แต่เขาจะมีความสงสัยมากเพียงใด ก็ขอให้เขาคุกเข่าลงแทบเบื้องหน้าของพระองค์ร้องทูลขอความเข้มแข็งจากรพระองค์ แล้วพระองค์จะประทานสติปัญญาและฤทธานุภาพของพระองค์ให้แก่เรา
—Manuscript 94, September 23, 1904, “The Sin of Evil-speaking.”