ปัญหาสุขภาพปัญหาหนึ่งที่พบมากขึ้นเรื่อยๆในปัจจุบัน และเป็นปัญหาระดับโลก ก็คือ โรคอ้วนค่ะ โดยเฉพาะโรคอ้วนลงพุง จริงๆ นับตั้งแต่ปีค.ศ. 1998 หรือพ.ศ. 2541 องค์การอนามัยโลกได้ให้ความหมายและบรรยายลักษณะโรคอ้วนลงพุงเอาไว้แล้ว โดยพบว่า ผู้ที่เป็นโรคอ้วนลงพุงจะเพิ่มโอกาสเสี่ยงของการป่วยเป็นโรคหัวใจและเบาหวานในอนาคต ลักษณะของโรคอ้วนลงพุงมีดังนี้
- อินซูลินไม่ทำงาน ร่างกายผลิตอินซูลินได้แต่ใช้การไม่ได้ เรียกว่าเกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน ถ้าเจาะเลือดจะตรวจพบระดับอินซูลินในเลือดสูง
- ร่างกายใช้กลูโคสไม่ได้ จนเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูง และมีโอกาสเกิดโรคอย่างน้อยอีก 2 โรค ในข้อ 3-5 ดังนี้
- ไขมันในเลือดผิดปกติ โดยจะมีระดับคอเลสเตอรอลชนิดเอชดีแอล และไขมันไตรกลีเซอไรด์สูง
- ความดันโลหิตสูง
- อัลบูมินถูกขับออกทางปัสสาวะในปริมาณต่ำๆ เรียกว่า ไมโครอัลบูมิน
ปัจจุบันเกณฑ์การวินิจฉัยโรคอ้วนลงพุงจะดูจากตัวชี้วัด 5 ตัวด้วยกัน ได้แก่ ความยาวรอบเอว ระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ ระดับไขมันคอลเสเตอรอล ความดันโลหิตสูง และน้ำตาลในเลือดสูง ซึ่งถ้าเข้าเกณฑ์ 3 ข้อใน 5 ข้อ เท่ากับเป็นโรคอ้วนลงพุง รายละเอียดของตัวชี้วัดทั้ง 5 ตัว มีดังนี้นะคะ ท่านผู้ฟังลองฟังดูนะคะว่าท่านมีลักษณะเข้าได้กับโรคอ้วนลงพุงหรือไม่
- รอบเอวเพิ่มขึ้น โดยสำหรับชาวเอเชีย เพศชายมีขนาดรอบเอวตั้งแต่ 90 ซม. ขึ้นไป ผู้หญิงตั้งแต่ 80 ซม. ขึ้นไป ท่านผู้ฟังลองวัดรอบเอวของท่านดูนะคะว่ามีค่าเท่าไร
- ระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ มีค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 150 มก./100 มล. หรือถ้าท่านกำลังรับประทานยาควบคุมไขมันไตรกลีเซอไรด์อยู่ก็จัดอยู่ในข้อนี้เช่นกัน
- ไขมันคอเลสเตอรอลชนิดเอชดีแอลในเพศชายมีค่าน้อยกว่า 40 มก./100 มล. หรือเพศหญิงมีค่าน้อยกว่า 50 มก./100 มล. และถ้าท่านกำลังรับประทานยาควบคุมไขมันคอเลสเตอรอลอยู่ ก็จัดอยู่ในข้อนี้เช่นกัน
- เป็นโรคความดันโลหิตสูง โดยความดันซิสโตลิก มีค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 130 และหรือ ความดันไดอาสโตลิก มีค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 85 มม.ปรอท
- น้ำตาลในเลือดสูง คือมีค่าตั้งแต่ 100 มก./100 มล. หรือถ้าท่านกำลังรับประทานยาควบคุมน้ำตาลอยู่ก็จัดอยู่ในข้อนี้เช่นกัน
ผู้ที่เข้าเกณฑ์ 3 ใน 5 ข้อ ของตัวบ่งชี้ จะเข้าข่ายมีความผิดปกติของการเผาผลาญอาหารเกิดขึ้นในร่างกาย และมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่จะป่วยเป็นโรคเบาหวานและต่อเนื่องด้วยโรคหัวใจค่ะ เพราะฉะนั้นต้องรีบแก้ไขแต่เนิ่นๆ นะคะ