พระเจ้าทรงสถาปนาคริสตจักรขึ้นเมื่อ อาดัม, เอวา, และเอเบล ยอมรับและยกย่องข่าวประเสริฐด้วยชีวิตที่มี ความสุขและยอมรับว่าพระเยซูคริสต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอดของเขา นี่คือสิ่งที่ทำให้เราได้ตระหนักอย่างแท้จริงถึงพระสัญญาของพระองค์ว่าพระองค์จะทรงสถิตอยู่ท่ามกลางเขา อย่างไรก็ดีเอโนคเป็นผู้ที่ปรารถนาจะได้ยินถึงพระคำของพระองค์อย่างใกล้ชิด พระเยซูคริสต์ทรงสถิตอยู่ท่ามกลางเขาในการนมัสการด้วย ในยุคสมัยของเอโนคนั้นเขาได้มีชีวิตอยู่ในยุคแห่งความชั่วร้ายของโลกนี้ พระเจ้าไม่เคยละทิ้งผู้เชื่อที่แม้จะมีจำนวนน้อยนิดไว้ท่ามกลางโลกนี้โดยปราศจากการเป็นพยานของพระองค์
เอโนคเป็นครูที่สอนถึงความจริงต่อสาธารณชนในยุคสมัยที่ท่านมีชีวิตอยู่ เอโนคสั่งสอนความจริง; เขามีชีวิตอยู่ในความจริง; และมีบุคลิกของความเป็นครูผู้ซึ่งดำเนินชีวิตอยู่กับพระเจ้าในทุกหนทุกแห่งอย่างถ่อมตนด้วยความบริสุทธิและเป็นที่น่ายกย่องในพันธกิจของท่าน เอโนคเป็นผู้เผยพระวจนะที่พูดออกมาโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ เอโนคมีชีวิตเป็นแสงสว่างท่ามกลางความมืดมิดของศีลธรรมที่เกิดขึ้นในยุคนั้น เอโนคเป็นบุคคลที่ดำเนินชีวิตเป็นแบบอย่างร่วมไปกับพระเจ้าและเชื่อฟังพระบัญญัติของพระองค์ ซึ่งพระบัญญัตินี่แหละที่ซาตานปฏิเสธที่จะเชื่อฟัง และอาดัมก็ได้ก่อกบฏขึ้น แต่เอเบลกลับประพฤติตามและด้วยเหตุที่เอเบลประพฤติตามพระบัญญัตินี่เองทำให้ท่านต้องถูกสังหาร และด้วยเหตุนี้พระเจ้าจึงได้ทรงประทานผู้ที่เป็นแบบอย่างให้กับจักรวาลนี้ได้เห็นถึงในสิ่งที่ซาตานได้กล่าวอ้างว่าจะไม่มีผู้ใดสามารถรักษาบัญญัติของพระองค์ได้นั้น ทำให้จักรวาลนี้ได้ทราบว่ามีบุคคลที่อุทิศตนเองให้กับพระเจ้าด้วยจิตใจ จิตวิญญาณ และสามารถมีชีวิตอยู่โดยสำแดงถึงพระลักษณะของพระคริสต์ได้อย่างสมบูรณ์ บุคคลผู้มีชีวิตอันบริสุทธิ์นี้ได้เลือกที่จะดำเนินชีวิตไปกับพระเจ้าโดยกล่าวติเตียนความบาปของโลก และมีชีวิตที่เป็นพยานแก่โลกนี้ว่าสามารถมีมนุษย์ที่ดำรงชีวิตโดยการรักษาพระบัญญัติของพระเจ้าได้ในโลกนี้….
เอโนคมิได้มีชีวิตอยู่เพียงการอธิษฐานเพื่อตนเอง และสวมใส่ยุทธภัณฑ์แห่งพระเจ้าเท่านั้น แต่เขามายังโลกนี้ด้วยคำทูลวิวอนต่อพระเจ้าสำหรับผู้คนในโลกนี้ด้วย เอโนคมิได้สำแดงความจริงเพื่อที่จะทำให้ผู้ที่ไม่เชื่อรู้สึกเจ็บปวดทรมานใจ แต่ทว่าการที่เอโนคมีชีวิตอยู่อย่างใกล้ชิดกับพระเจ้านั้นทำให้เขามีความกล้าหาญที่จะทำงานของพระเจ้าในโลกแห่งความชั่วร้ายนี้ต่างหาก เอโนคดำเนินไปกับพระเจ้า “การเป็นพยานของท่านเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้า” สิ่งนี้เป็นเกียรติยศของผู้เชื่อที่อยู่ในโลกใบนี้เพราะนี่คือมนุษย์ที่อยู่ท่ามกลางพระเจ้า และพระเจ้าก็ยกชูเขาให้ขึ้นสูงกว่ามนุษย์ทั้งปวง “เราอยู่ในพระองค์ และพระองค์อยู่ในเรา” พระเยซูคริสต์ตรัสดังนี้ การมีชีวิตที่ดำเนินไปกับพระเจ้าของเอโนคนั้นคือการเป็นพยานเพื่อพระองค์มิใช่การถูกกักขังโดยพระเจ้า บุคคลเช่น เอโนค, เอลียาห์, เหล่าบรรพชนในยุคแรก, ผู้เผยพระวจนะ และผู้ที่ยอมทนทุกข์เพื่อพระเจ้า พวกเขาเหล่านี้มีชีวิตอยู่ในพระองค์ทั้งสิ้น… สิ่งเหล่านี้มิได้เป็นเพียงสิทธิพิเศษที่จะได้กระทำเพื่อพระเจ้าเท่านั้น แต่เป็นหน้าที่สำหรับผู้ที่ติดตามพระคริสต์ที่จะต้องมีสิ่งเหล่านี้ประทับอยู่ภายในจิตใจ และประทับสิ่งเหล่านี้เอาไว้ในชีวิตของพวกเขาเพื่อจะได้บังเกิดเป็นผลแห่งคุณความดีที่พระเจ้าได้ทรงกระทำให้บังเกิดในตัวของบุคคลเหล่านั้นด้วย
—Manuscript 43, August 2, 1900, “The Prophet Enoch.”