วันนั้นขณะที่ดิฉันกำลังตรวจผู้ป่วยอยู่ พยาบาลก็เข้ามารายงานว่า มีคุณพ่อพาลูกชายมาตรวจเพราะก้างติดคอ ดิฉันก็เดินตามพยาบาลไปที่ห้องฉุกเฉิน พบเด็กชาย ถ้าจำไม่ผิด อายุน่าจะประมาณ 1+ -2+ ปี นั่งอยู่บนตักคุณพ่อ ร้องไห้สลับกับไอ และทำท่าจะอาเจียนเป็นช่วงๆ หน้าแดงเชียวค่ะ คุยกับคุณพ่อเพิ่มเติมก็พบว่า คุณพ่อกำลังนั่งแกะปลาเพื่อเป็นกับข้าวให้ลูกที่กำลังกินข้าวอยู่และเล่นไปด้วย หันมาอีกทีก็พบว่าลูกกำลังไอและทำท่าอาเจียน มีน้ำลายออกมานิดหน่อยและร้องไห้ ก็คิดว่าก้างต้องติดคอลูกแน่ๆ ก็เลยพามา ดิฉันใช้ไฟฉายส่องดูก็พบก้างปลาจริงๆ ค่ะ ชิ้นใหญ่มาก น่าจะยาวประมาณ 2-3 ซม. ปักอยู่ที่ต่อมทอนซิลด้านซ้ายของเด็กน้อย
ปัญหาสิ่งแปลกปลอมในลำคอเป็นเรื่องที่พบอยู่เรื่อยๆ นะคะ ส่วนใหญ่มักเป็นของแหลมคม เช่น กระดูกเป็ดหรือไก่ ก้างปลา เศษไม้ เศษลวดเล็กๆ หรือไม้กลัดห่อขนม เป็นต้นค่ะ ผู้ป่วยจะรู้สึกเจ็บแปลบเวลากลืน ถ้าเป็นผู้ใหญ่ก็จะชี้บอกตำแหน่งได้ ว่าเจ็บตรงนี้ ตรงนี้ ส่วนอาการในเด็กก็จะมีอาการกลืนแล้วเจ็บ เด็กจะไม่ยอมกลืนอาหารหรือน้ำ ถ้าเป็นเด็กเล็กก็จะร้องงอแงและทำท่าขย้อน
สิ่งแปลกปลอมที่พบส่วนใหญ่จะตำอยู่ที่ต่อมทอนซิลค่ะ เช่นเดียวกับเด็กน้อยที่น่าสงสารของเรา ส่วนตำแหน่งอื่นๆที่พบได้อีก ก็คือ ที่โคนลิ้น (pyriform sinus) แอ่งด้านข้างกล่องเสียง หรืออาจจะเป็นที่ผนังด้านข้างของลำคอก็ได้ ถ้าให้ผู้ป่วยอ้าปากแล้ว แพทย์ตรวจมองเห็นสิ่งแปลกปลอมได้ชัดเจน เช่นตำอยู่ที่ต่อมทอนซิล ก็จะใช้เครื่องมือ (ที่เรียกว่า laryngeal forceps) คีบออกมา แต่ถ้าสิ่งแปลกปลอมอยู่ลึกมากมองไม่เห็น ก็ต้องใช้กระจกเงาหรือกล้อง endoscope ช่วยตรวจเพิ่มเติมค่ะ
กลับมาที่เด็กน้อยของเราต่อนะคะ หลังจากที่ดิฉันมองเห็นก้างปลาแล้ว ก็ต้องเอาออกค่ะ เนื่องจากเด็กยังเล็กไม่ยอมร่วมมือ คุณพ่อก็เลยต้องจับลูกให้อยู่นิ่งๆ คุณพยาบาลก็ช่วยส่องไฟฉาย ดิฉันเองมือซ้ายก็ถือไม้กดลิ้นเพื่อกดลิ้นและอ้าปากเด็ก ส่วนมือขวาก็ถืออุปกรณ์เพื่อคีบออกมา ตอนนั้นในใจก็อธิษฐานอย่างร้อนรนทันที “พระเจ้าโปรดทรงช่วยลูกให้คีบได้ถูกก้างและเอาออกมาได้โดยง่ายด้วย” เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วก็ 1 2 3 คีบก้างออกมาได้ง่ายจริงๆ ค่ะ จำได้ว่า วันนั้น ดิฉันเองยังรู้สึกงงๆ ในความง่ายเลยนะคะ ขอบคุณพระเจ้า! หลังจากนั้นดิฉันก็กลับไปตรวจคนไข้ที่โอพีดีต่อ สักพักใหญ่ๆ คุณพ่อก็พาลูกชายมาขอบคุณ เด็กน้อยตอนนี้อย่างกับคนละคนเลยค่ะ หน้าตายิ้มแย้ม แจ่มใส ไม่มีท่าทางกลัวเลย ขอบคุณพระเจ้าที่ทรงช่วยดิฉันและคุณพ่อลูกคู่นี้
พระเจ้าทรงสัญญาไว้ในพระคัมภีร์หลายต่อหลายครั้งว่า พระองค์จะทรงตอบคำอธิษฐานของเรา พระองค์ทรงสัญญาอยู่เสมอว่าจะทรงช่วยเราเมื่อเรามีปัญหา ในพระธรรมเยเรมีย์ 33:3 บันทึกว่า “จงทูลเรา และเราจะตอบเจ้า และจะบอกสิ่งที่ใหญ่ยิ่งและที่ซ่อนอยู่ ซึ่งเจ้าไม่รู้นั้นให้แก่เจ้า” สิ่งสำคัญคือ ให้เราอธิษฐานขอด้วยความเชื่อ ดังที่พระเยซูทรงตรัสไว้ในมาระโก 11:24 ว่า “เหตุฉะนั้นเราบอกท่านทั้งหลายว่า ขณะเมื่อท่านจะอธิษฐานพระเจ้าขอสิ่งใด จงเชื่อว่าได้รับ และท่านจะได้รับสิ่งนั้น” ค่ะ เมื่อเราขอด้วยความเชื่อ โดยเฉพาะการขอเพื่อผู้อื่น พระเจ้าทรงตอบเสมอค่ะ ถ้าในวันนี้ท่านผู้ฟังมีปัญหา หรือมีความทุกข์ ดิฉันอยากให้ท่านลองอธิษฐานต่อพระเจ้านะคะ พระองค์จะทรงส่งความช่วยเหลือมาให้ เพราะพระองค์ทรงรักท่านค่ะ