การมีอุปนิสัยการรับประทานอาหารที่ถูกต้องเป็นสิ่งที่สำคัญมากและมีผลต่อสุขภาพของท่านค่ะ เรามาฟังกันต่อนะคะว่า อุปนิสัยการรับประทานอาหารที่ดีนั้นประกอบด้วยสิ่งใดบ้าง
การรับประทานอาหารเป็นเวลา และถ้าเป็นได้ควรรับประทานอาหารเวลาเดียวกันทุกวัน (CD169 CD 179.5 ปัญญาจารย์ 10:17) และไม่ควรรับประทานอาหารว่างระหว่างมื้อค่ะ
ถ้าท่านตัดสินใจรับประทานอาหารวันละ 3 มื้อ โดยไม่มีอาหารว่าง ก็จะช่วยแก้ปัญหาสุขภาพต่อไปนี้ได้ค่ะ คือ ปัญหาอาหารไม่ย่อย นอนไม่หลับ สมองตื้อๆ น้ำหนักเพิ่ม และอาการเจ็บหน้าอกที่ภาษาอังกฤษใช้คำว่า heart burn
มีงานวิจัยหนึ่งเกี่ยวกับผลของการรับประทานอาหารระหว่างมื้อที่มีต่อสุขภาพของเรา น่าสนใจเชียวค่ะ
นักศึกษามหาวิทยาลัยกลุ่มหนึ่งได้รับประทานอาหารเช้าซึ่งประกอบด้วย ซีเรียล ขนมปังปิ้ง ผลไม้ และไข่ 1 ฟอง ภายหลังจากมื้ออาหาร 4 ชั่วโมง ก็ได้ทำการทดสอบและพบว่า กระเพาะอาหารของพวกเขาว่างเปล่า หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ กระเพาะอาหารของพวกเขายังสามารถย่อยมื้อเช้าได้หมดภายใน 4 ชั่วโมง หลังจากนั้น 2-3 วันผ่านไป ผู้วิจัยก็ให้นักศึกษากลุ่มเดิมมารับประทานอาหารเช้าแบบเดิม แต่ครั้งนี้ภายหลังจากอาหารมื้อเช้า 2 ชั่วโมง ก็ให้นักศึกษากินอาหารว่าง บางคนกินแซนวิชเนยถั่วกับนม 1 แก้ว บางคนกินพายฟักทองกับนม 1 แก้ว ภายหลังจากนั้น 6 -9 ชั่วโมงต่อมา การทดสอบพบว่า อาหารเช้าบางส่วนยังคงค้างอยู่ในกระเพาะอาหาร ไม่น่าเชื่อเลยนะคะ แค่ขนมปังนิดหน่อยกับนมแค่นี้เอง 6-9 ชั่วโมง อาหารเช้าถูกย่อยไม่หมดเหลือค้าง ดิฉันอดคิดไม่ได้ว่า อาจจะเริ่มเน่าแล้วด้วย นอกจากขนมปังกับนมแล้ว นักวิจัยยังให้นักศึกษาบางคน กินลูกกวาดรสช็อกโกแลต 2 ครั้งในช่วงเช้า และ 2 ครั้งในช่วงบ่าย ท่านผู้ฟังลองเดาดูนะคะว่า นักศึกษาที่กินลูกกวาดกลุ่มนี้ กระเพาะอาหารของพวกเขายังสามารถย่อยมื้อเช้าได้หมดภายใน 4 ชั่วโมงหรือไม่ ผลการวิจัยรายงานไว้ว่า เมื่อทดสอบ 13 ชั่วโมงต่อมา อาหารเช้ามากกว่าครึ่งหนึ่งยังคงเหลืออยู่ในกระเพาะอาหาร และแถมยังไม่ย่อยอีกด้วย ! อย่าดูถูกขนมเล็กๆ น้อยๆ ที่เรารับประทานเป็นอาหารว่างนะคะ เพราะอาจส่งผลใหญ่หลวงต่อสุขภาพได้
ดิฉันรู้สึกขอบคุณพระเจ้าที่มีงานวิจัยทางสุขภาพออกมาอยู่เรื่อยๆ ช่วยให้เรามีความรู้ในการดูแลสุขภาพเพิ่มขึ้น งานวิจัยชิ้นนี้สามารถอธิบายได้ว่า เมื่อเรารับประทานอาหารเพิ่มเข้าไปในขณะที่กระเพาะยังย่อยอาหารมื้อก่อนหน้านั้นไม่หมด ขบวนการย่อยอาหารจะเกิดขึ้นช้าลงจนกระทั่งกระเพาะสามารถจัดการอาหารมื้อใหม่ได้สำเร็จ นี่จึงเป็นเหตุผลว่า เมื่อเรากินบ่อยๆ กินจุบจิบ กระเพาะก็จะทำงานทั้งกลางวันและกลางคืน และหลายๆครั้ง ขณะที่เรานอนหลับสบาย กระเพาะก็ยังไม่ได้พักเพาะยังทำงานไม่เสร็จ น่าสงสารจริงๆ อย่าทำร้ายกระเพาะอาหารของท่านโดยการรับประทานอาหารระหว่างมื้อนะคะ
มีพระพรในวันนี้ ขอฝากข้อคิดจากพระคัมภีร์มัทธิว 7:6 ไว้ให้กับท่านผู้ฟังทุกท่านนะคะ พระคัมภีร์กล่าวว่า “อย่าให้ของประเสริฐแก่สุนัข อย่าโยนไข่มุกให้แก่สุกร เกลือกว่ามันจะเหยียบย่ำเสีย และจะหันกลับมากัดตัวท่านด้วย” หลายครั้ง สิ่งดีๆ ที่เรามอบให้แก่ผู้อื่น สวัสดีค่ะ