ความสว่างทำหน้าที่ขับไล่ความมืด ที่ใดมีความสว่าง ที่นั่นก็ไม่มีความมืด มีความสว่างเกิดขึ้นเมื่อใด ความมืดก็หายไปเมื่อนั้น ไม่มีอะไรจะไล่ความมืดได้นอกจากความสว่างเท่านั้น คนที่พยายามไล่ความมืดออกไปจะต่อสู้กับความมืดไม่ได้เลย แต่คนที่พยายามสร้างความสว่างจะไล่ความมืดได้ในที่สุด ถ้าอยากไล่ความมืดจึงต้องสร้างความสว่าง การสร้างความสว่างจึงเป็นภารกิจเริ่มแรกที่เราต้องเอาใจใส่เมื่อเราคิดจะทำการใหญ่
การคิดเป็นการสร้างข้อมูลในสมองของมนุษย์ ในการสร้างของเรานั้นโดยทั่วไปแล้วข้อมูลที่เป็นนามธรรมต้องได้รับการสร้างให้เสร็จก่อนที่จะมีการลงมือทำให้เป็นรูปธรรม พระคัมภีร์ไบเบิลเขียนไว้ว่า “พระเจ้าตรัสว่า ‘จงเกิดความสว่าง ความสว่างก็เกิดขึ้น’” (ปฐมกาล 1:3)
พระเจ้าทรงสร้างความสว่างด้วยการตรัสหรือพูด นี่แสดงให้เห็นว่าการพูดสามารถทำให้สิ่งอื่นเกิดขึ้นได้ การพูดจึงเป็นพลัง เพราะการพูดเป็นพลัง การพูดจึงสามารถสร้างสิ่งต่างๆ ได้
แม้มนุษย์จะไม่สามารถพูดให้สิ่งต่างๆ เกิดขึ้นมาได้โดยตรงเหมือนที่พระเจ้าตรัสในพระคัมภีร์ข้อนี้ แต่ถ้ามนุษย์พูดถึงสิ่งใดบ่อยๆ สิ่งนั้นก็จะได้รับการสร้างให้เป็นรูปเป็นร่างในชีวิตของเขา ไม่มีใครที่ชอบพูดถึงความทุกข์แล้วตนจะมีความสุข ไม่มีใครที่ชอบพูดถึงความท้อแท้แล้วตนจะมีกำลังใจ และไม่มีใครที่ชอบพูดถึงสิ่งที่เป็นอบายมุขแล้วตนจะหลีกพ้นอบายมุขเหล่านั้นได้
การพูดเป็นการสร้างข้อมูลไว้ในสมอง เป็นการตอกย้ำข้อมูลให้มั่นคง เป็นการสร้างค่านิยม เป็นการเร้าอารมณ์ เป็นการสร้างตัวตนภายใน และเป็นการเลี้ยงความคิดไม่ให้ตาย เราพูดถึงสิ่งใดบ่อยๆ สิ่งนั้นจึงเกิดขึ้นจริงในชีวิตของเรา อยากได้รับสิ่งที่ดี ก็จงพูดถึงสิ่งที่ดี แล้วสิ่งที่ดีจะเกิดขึ้น