1พกษ18 : 37 – 40 “ข้าขอแต่พระเจ้า ขอทรงฟังข้าพระองค์ ทรงฟังข้าพระองค์ เพื่อชนชาตินี้จะทราบว่าพระองค์คือพระเยโฮวาห์ ทรงเป็นพระเจ้า และพระองค์ทรงหันจิตใจของเขาทั้งหลายกลับมาอีก” 38 แล้วไฟของพระเจ้าก็ตกลงมาและไหม้เครื่องเผาบูชา และฟืนและหิน และผงคลี และเลียน้ำซึ่งอยู่ในคู 39 และเมื่อประชาชนทั้งปวงได้เห็น เขาก็ซบหน้าลงและร้องว่า “พระเยโฮวาห์พระองค์ทรงเป็นพระเจ้า พระเยโฮวาห์พระองค์ทรงเป็นพระเจ้า” 40 และเอลียาห์บอกเขาว่า “จงจับผู้เผยพระวจนะของพระบาอัล อย่าให้หนีไปได้สักคนเดียว” และเขาทั้งหลายก็ไปจับเขามา และเอลียาห์ก็นำเขามาที่ลำธารคีโชน และฆ่าเขาเสียที่นั่น
ความท้อแท้ใจเกิดขึ้นกับคนในทุกระดับ ทุกเพศ ทุกวัย เช่นเดียวกับเอลียาห์ผู้รับใช้ของพระเจ้า ชัยชนะที่เขาพึ่งได้รับสดๆร้อนๆ ต่อหน้าผู้คนมากมาย พระเจ้าได้รับการกอบกู้สง่าราศีของพระองค์กลับคืนมา ผู้รับใช้ของพระบาอัลต้องอับอายขายหน้า และ 450 ชีวิตต้องตายไป (1พกษ18) เขาก้าวเดินลงมาจากยอดเขาอย่างผู้ชัยชนะ คำถาม : ในชีวิตคริสเตียนของท่านเคยอยู่ในสภาพอารมณ์เช่นนี้บ่อยหรือไม่ เมื่อคุณได้รับการปกป้องดูแล การเอาใจใส่พิเศษจากพระเจ้า การช่วยเหลือในวิกฤต ให้พ้นจากสภาพที่อับอายขายหน้า สภาพที่จนตรอก ?
แต่น่าเสียดายที่ความรู้สึกที่ตื่นเต้นชื่นชมของเอลียาห์เป็นเพียงเหตุการณ์ไม่กี่ชั่วยามเท่านั้นเอง ซึ่งเราสามารถเรียนรู้บทเรียนจากความท้อใจของเอลียาห์ได้ดังนี้
โดยการพินิจพิจารณาถึงพระเมตตา พระคุณความรัก การช่วยเหลือในทุกคราจากพระเจ้า ขอบพระคุณสำหรับสิ่งนั้นทุกๆวัน เพราะบางทีการปล่อยให้ปัญหาความคิดที่เป็นแง่ลบกัดกินกำลังของเราก็น้อยลงไป เหมือนเม็ดเงินก้นถุงกำลังหมดไป เป็นผลพวงจากการที่เราไม่ได้ระลึกถึงการปกป้องของพระเจ้า นี่คือสิ่งที่พระเจ้าย้ำเตือนชาวอิสราเอลให้จดจำบางสิ่ง และให้ลืมบางสิ่ง (เฉลยธรรมบัญญัติ 8:2) ในชีวิตสมรสก็เช่นกัน บางครอบครัวเสพสุขชีวิตสมรสเพียงเวลาสั้นๆ จากนั้นก็ไม่ได้รักษาความรู้สึกที่ดีๆน่าประทับใจเอาไว้ จึงเริ่มเกิดความรู้สึกเบื่อหน่าย และอยากพ้นสภาพเช่นนั้น อย่าลืมว่าจงรักษาสภาพความชื่นชมยินดีในพระเจ้า การปกป้องดูแล การเลี้ยงดู คำตอบมากมายที่พระเจ้ามอบให้ รักษาไว้โดยการตรึกตรอง ระลึกถึง พิจารณาทุกเช้าค่ำ เพราะมิเช่นนั้น ความรู้สึกว่างเปล่า และอารมณ์กังวลใจจะเริ่มเข้ามาแทนที่
บ่อยครั้งที่เราก้าวเดินลงมาจากภูเขาคารเมล และผละตัวเองเข้าสู่เมืองโฮเรปเช่นเดียวกับเอลียาห์ เข้าไปสู่สภาพจิตวิญญาณที่เกินจะอดทน คำขู่อันทรงอิทธิพลเริ่มทำลายขวัญกำลังใจของคุณหมดสิ้น (สุภาษิต บทที่ 24:10) ถ้าเจ้าท้อใจในวันเคราะห์ร้าย กำลังของเจ้าก็น้อย เช่นเดียวกับเอลียาห์ที่ปล่อยให้ถ้อยของขู่ของพระราชินีข่มขู่เขา จนกระทั่งเขาเริ่มมองเห็นสภาพที่ยากเย็น และปัญหาที่ดูเหมือนไม่จบลงง่ายๆอีกต่อไป ดูเป็นความยากลำบากจากการฟื้นฟูสู่ความพ่ายแพ้ “ ถ้าพรุ่งนี้” ดูเหมือนปัญหาที่เขากำลังเผชิญอยู่ อยู่ใกล้ๆแค่เอื้อมเท่านั้นเองพรุ่งนี้แล้ว…. จุดนี้ทำให้เอลียาห์ผู้รับใช้ที่เคยแข็งแกร่งผู้ที่สามารถสั่งฝนไม่ให้ตกตลอด3ปีได้ เขากลับต้องวิ่งหนีไปไกลถึงภูเขาโฮเรป ตลอดวันตลอดคืน 40วันที่เขาหนีไป เป็นเส้นทางที่เจ็บปวดยิ่งในหัวใจของชายคนนี้ เอลียาห์กล่าวว่าอย่างไรต่อพระเจ้า “พอแล้วพระเจ้าข้า” บ่อยครั้งที่เราเองก็เคยพูดแบบนี้ ลูกไม้เดิมๆนี้เราก็เคยพูดมาก่อน ประมาณว่าไม่ต้องการอะไรอีกแล้วไม่ว่าความสำเร็จ หรือปัญหาใดๆ ดูเหมือนเรากำลังมาถึงจุดอิ่มตัวของชีวิต พูดได้อย่างเดียวคือว่าเบื่อหน่ายชีวิต…. เริ่มเบื่อข้าวปลาอาหาร
บางทีเราก็มีคำตอบให้กับตัวเองอย่างหนักแน่นว่า ข้าพระองค์เหลือเพียงคนเดียว ข้าพระองค์ที่กำลังแบกภาระปัญหาที่หนัก ข้าพระองค์คนเดียวที่นั่งอยู่ในที่นั่งลำบากเพื่อพระเจ้า การที่เราเริ่มตัดสินสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในมองมองของเราเร็วเกินไป โดยคิดว่า ไม่มีใครสักคนเดียวที่เข้าใจเราได้ สิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตของเราหนักเกินกว่าที่จะรับได้ ขบวนการคิดเช่นนี้คือสิ่งอันตรายยิ่ง อย่ามองว่าตัวเองคนเดียวที่สมบูรณ์ครบด้าน ตัวเองร้อนรน ตัวเองสัตย์ซื่อต่อพระเจ้า ตัวเองเข้มแข็ง ตัวเองพูดแต่ความจริงเพียงคนเดียว การคิดแบบนี้คือการแยกตัวเองออกจากผู้อื่น เหมือนเด็กที่แสดงอาการเรียกร้องความเห็นใจ ความสนใจจากผู้อื่น สร้างเงื่อนไข ข้อต่อรองกับพระเจ้า อย่าลืมถามตัวเองว่า “ เจ้าทำอะไรอยู่ที่นี่” หลายครั้งที่เราทำอะไรลงไป พฤติกรรมของเราไม่ค่อยถูกต้องในสายพระเนตรพระเจ้า เพราะเรามีอีโก้มากเกินไป เราไม่มองสถานการณ์ในมุมมองของพระเจ้า เรามัวไปคิดว่าตัวเองเท่านั้นที่ถูกต้อง “ จงออกไปเถิด” ข้อ 11 ออกจากสภาพความคิดที่ไม่ถูกต้อง ให้ยืนเฉพาะพระพักตร์พระเจ้า ชีวิตคริสเตียนที่อยู่กับตัวตนมากเกินไปบางครั้งก็เป็นตัวทำลาย ทำให้เรามองโลกด้านเดียว มองคนอื่นๆในทางลบๆ ทั้งๆ ที่ตัวเราเองนั่นแหละคือตัวปัญหา หยุดที่จะวิพากผู้อื่นและให้กำลังใจกับตัวเองใหม่อีกครั้ง สดุดี 43:5 (ถามตัวเองว่า ทำไมจึงฝ่ออยู่)
.
อีกครั้งหนึ่งที่คุณจะต้องก้าวกลับไปจากจุดที่พระเจ้าให้คุณเริ่มต้นมา กลับไปที่จุดเริ่มต้นแห่งความรักดั่งเดิมที่มีในพระเจ้า หัวใจที่อุทิศถวาย กลับไปจากมาตรฐานของพระวจนะ ออกจากการตีพระคัมภีร์เข้าข้างตัวเอง กลับไปเพื่อปรนนิบัติรับใช้พระเจ้าอีกครั้ง ไม่ใช่กลับไปดำเนินชีวิตเหลวแหลกอีกเช่นดื่มสุรา เมรัย สูบยา เที่ยวสถานเริงรมย์ หรือเสพยาเสพติด การพนันทุกรูปแบบ การนินทาว่าร้าย หรือการโกรธช้าชิงชัง สารพัดอื่นๆที่ส่อสำแดงวิถีในเนื้อหนัง แต่จงเดินก้าวใหม่กับพระเจ้า และกลับไปเพื่อรับใช้พระเจ้า เพราะพระเจ้าไม่ได้ให้คนของพระเจ้าต่อสู้เพียงลำพัง 1 พงศ์กษัตริย์ บทที่ 19:18
ไม่แปลกที่ท่านจะท้อแท้ใจ เพราะเส้นทางทุกไมล์ในชีวิตเต็มไปด้วยสิ่งที่ท้าทายหนัก แต่ทุกครั้งที่เผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากอย่าลืมพระเจ้า พระองค์ไม่ทอดทิ้งท่าน บอกตัวคุณเองดีกว่าว่า ท้อได้แต่อย่าถอย สู้ต่อไปโดยพระเจ้า…….ในสภาพที่อ่อนแอ และหมดเรี่ยวแรง ทูลขอกำลังใหม่จากพระองค์เถิด…..