พระคริสต์ทรงเป็นศีรษะของคริสตจักร และคริสตจักรก็เป็นพระกายของพระคริสต์นั้น หมายความว่าอะไร? ก็หมายความว่าสิทธิอำนาจทุกอย่าง ล้วนอยู่ในพระองค์. การที่อำนาจทุกอย่างล้วนอยู่ในพระองค์ ก็เนื่องจากชีวิตทุกอย่างล้วนอยู่ในพระองค์. คริสตจักรทั้งหมดได้สมบูรณ์อยู่ในพระองค์ และพระองค์เองคือ แหล่งแห่งชีวิตในร่างกาย เพราะว่าตัวของร่างกายเองนั้น ไม่มีชีวิต. 1 ยอห์น 5:11 กล่าวว่า “พระเจ้าได้ทรงโปรดประทานชีวิตนิรันดร์ให้เราทั้งหลาย และชีวิตนี้มีอยู่ในพระบุตรของพระองค์”. แม้ว่าพระเจ้าจะประทานชีวิตนิรันดร์นี้ให้แก่เราแล้ว แต่ชีวิตนี้ก็ยังคงอยู่ในพระบุตรของพระองค์ พระเยซูคริสต์ไม่เคยแยกออกจากชีวิตนี้เลย พระเจ้าประทานชีวิตไว้ในของพระองค์ ข้อ 12 กล่าวว่า “ผู้ที่มีพระบุตรก็มีชีวิต ผู้ที่ไม่มีพระบุตรก็ไม่มีชีวิต” โดยการได้รับชีวิตของพระบุตรมาเป็นชีวิตของเรา ทำให้เราได้มีชีวิตใหม่ โดยการได้รับพระบุตรของพระเจ้า คริสเตียนได้ต้อนรับชีวิตใหม่จากองค์พระผู้เป็นเจ้า แต่ชีวิตนี้ก็ไม่ได้แยกออกจากองค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้เชื่อไม่ได้มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับชีวิตใหม่นี้แต่เพียงประการอย่างเดียว แต่การที่ผู้เชื่อมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับชีวิตใหม่นี้ ก็เท่ากับมีความอันหนึ่งอันเดียวกันกับพระบุตรของพระเจ้า การบังเกิดใหม่นี้ทำให้เรากลายเป็นอวัยวะ ที่อยู่ในพระกายของพระคริสต์ ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของชีวิตใหม่นี้ ก็ทำให้เราไม่อาจแยกออกจากศีรษะ เพราะว่าชีวิตของเราได้รับมาจากศีรษะคือองค์พระเยซูคริสต์นั่นเอง
การที่จะมีชีวิตของพระคริสต์อยู่ภายในเราได้ตลอดเวลาขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างเรากับพระบุตรของพระเจ้า ถ้ามีสิ่งใดมาขัดขวางการสามัคคีธรรม ระหว่างเรากับพระองค์ ชีวิตที่อยู่ภายในเราก็จะหยุดชะงักทันที พระองค์ทรงเป็นศีรษะของพระกายมีเพียงเมื่อพระองค์ ทรงครอบครองตัวเราอย่างสิ้นเชิงเท่านั้นชีวิตของพระองค์จึงจะสามารถเข้าสู่ภายในตัวเราได้อย่างสมบูรณ์ ด้วยเหตุนี้ผู้เชื่อในพระองค์จึงขาดการอธิษฐาน, การศึกษาพระวจนะของพระเจ้า, การสามัคคีธรรม กับพระองค์ไม่ได้เลย
ฤทธิ์อำนาจแห่งการมีชีวิตอยู่ของเราล้วนได้รับมาจากพระคริสต์ นี่คือสาเหตที่เราไม่อาจกระทำสิ่งใดได้โดยไม่ต้องพึ่งพาในพระองค์ และมีเพียงองค์พระผู้เป็นเจ้าที่ทรงเป็นศีรษะของเรา มีเพียงพระองค์เท่านั้นที่ทรงมีฤทธานุภาพในการขับเคลื่อนชีวิตของเรา ซึ่งคืออวัยวะที่อยู่ในพระกายของพระองค์ ในยุคสมัยแห่งความบาปและการล่วงละเมิดบัญญัติและกฏเกณฑ์ของพระองค์นี้ ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวเราเรียกร้องให้มนุษย์อยู่ภายใต้อำนาจของมันล้วน และจะขัดขวางมิให้เราต้อนรับชีวิตใหม่นี้จากองค์พระผู้เป็นเจ้า แต่ถ้าเราต้องการความเข้าใจและเข้าสู่ชีวิตแห่งความเป็นพระกายของพระคริสต์ เราก็ต้องยอมรับ และรู้จักอำนาจแห่งผู้เป็นศีรษะของพระกายคือ ถ้ามือของข้าพเจ้าไม่ได้รับคำสั่งมาจากศีรษะ ก็จะไม่สามารถทำอะไรได้เลย ถ้าอวัยวะต้องการเคลื่อนไหวจำต้องได้รับคำสั่งมาจากศีรษะ พระคริสต์ทรงเป็นชีวิตของพระกายคือคริสตจักร และพระองค์ก็ทรงมีอำนาจอยู่ในคริสตจักรนั้น การเคลื่อนไหวทั้งหมดของอวัยวะในพระกายของพระองค์ ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมที่มาจากพระองค์ การที่พระคริสต์ทรงเป็นศีรษะแห่งคริสตจักรหมายความว่า พระองค์ทรงมีอำนาจสูงสุดในคริสตจักรด้วยเช่นกัน มนุษย์เราไม่ใช่ศีรษะ เราจึงไม่มีอำนาจนี้ด้วยตัวของเราเองเพียงแต่พระองค์ทรงประทานอำนาจของพระองค์ให้กับผู้รับใช้ของพระองค์เพื่อให้งานของพระองค์สำเร็จสมบูรณ์ ดังนั้นสิ่งเดียวที่เราควรกระทำก็คือการนอบน้อมและยอมอุทิศถวายชีวิตของเราให้อยู่ภายใต้การทรงนำขององค์พระผู้เป็นเจ้า …ในพระกายของพระคริสต์นั้นความคิดหรือความเห็นส่วนบุคคลใดๆ ล้วนไม่มีความสมบูรณ์เพียงพอ ซึ่งทั้งหมดนี้จะต้องละทิ้งไป ในฐานะที่เราเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของพระกายคือคริสตจักรของพระองค์ เราต้องอุทิศถวายตนเองต่ออำนาจแห่งการเป็นประมุขของพระคริสต์ เชื่อฟังพระบัญชาของพระองค์ และกระทำในสิ่งที่พระองค์ได้ตรัสเอาไว้เท่านั้น
เมื่อเราต้อนรับพระคริสต์เป็นพระเจ้าในชีวิตของเรา ก็เท่ากับว่าเราได้ตัดขาดจากการให้สิ่งอื่นที่จะมาเป็นเจ้าแห่งชีวิตของเราด้วย มีเพียงพระองค์เท่านั้นที่ทรงเป็นพระเจ้าในชีวิตนี้ ส่วนสิ่งอื่นๆ ล้วนไม่ใช่พระเจ้าแห่งชีวิตของเรา พระคริสต์ทรงเป็นศีรษะของคริสตจักรไม่มีผู้ใดในท่ามกลางคริสตจักรเป็นศีรษะนั้น ดังนั้น เราจึงต้องนอบน้อมต่อพระองค์… ถ้าเราต้องการมีชีวิตอยู่ในพระกายของพระองค์
เปาโลกล่าวว่า “…และไม่ได้ยึดมั่นในพระองค์ ผู้ทรงเป็นศีรษะ ศีรษะนั้นเป็นเหตุให้กายทั้งหมดได้รับการบำรุงเลี้ยง และติดต่อกันด้วยข้อและเอ็นต่างๆ จึงได้เจริญขึ้นตามที่พระเจ้าทรงโปรดให้เจริญขึ้นนั้น” (คส.2:19). ในเมื่อพระคริสต์ทรงเป็นศีรษะของพระกาย ดังนั้น เราจึงต้องยึดพระองค์ผู้เป็นพระเจ้าเอาไว้. การยึดพระองค์ผู้พระเจ้าไว้ก็คือ การยอมรับว่ามีเพียงพระคริสต์ที่เป็นผู้นำในชีวิตของเราและเรายอมอยู่ภายใต้การทรงนำของพระองค์อย่างสมบูรณ์.
