สดุดี 127 : 1. ถ้าพระเจ้ามิได้ทรงสร้างบ้านบรรดาผู้ที่สร้างก็เหนื่อยเปล่า ถ้าพระเจ้ามิได้ทรงเฝ้าอยู่เหนือนครคนยามตื่นอยู่ก็เหนื่อยเปล่า 2. เป็นการเหนื่อยเปล่าที่ท่านลุกขึ้นแต่เช้ามืด นอนดึก และกระหืดกระหอบกินอาหารเพราะพระองค์ประทานแก่ผู้ที่รักของพระองค์ ให้หลับสบาย
มัทธิว 7 : 24 เหตุฉะนั้นผู้ใดที่ได้ยินคำเหล่านี้ของเราและประพฤติตาม เขาก็เปรียบเสมือนผู้ที่มีสติปัญญาสร้างเรือนของตนไว้บนศิลา 25 ฝนก็ตกและน้ำก็ไหลเชี่ยวลมก็พัดปะทะเรือนนั้น แต่เรือนมิได้พังลงเพราะว่ารากตั้งอยู่บนศิลา
เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม ค.ศ. 1969 ทุก ๆ คนทั่วทั้งโลกต่างก็จับตามอง และให้ความสนใจต่อการที่ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ส่งยาน อพอลโล 11 พร้อมนักบินอวกาศ 3 คนไปลงดวงจันทร์ มีการถ่ายทอดเหตุการณ์ครั้งนั้นไปทั่วโลก ขั้นตอนทุกอย่างถูกตระเตรียมและดำเนินการอย่างเป็นระบบตามแผนที่ดำเนินไว้ เมื่อยานได้ถูกยิงออกไปจากผืนโลกเมื่อไปถึงจุด ๆ หนึ่งแล้วท่อนเชื้อเพลิงท่อนแรกที่ถูกใช้หมดแล้วก็จะถูกสลัดออกไป และเริ่มใช้กำลังขับเคลื่อนในท่อนเชื้อเพลิงที่ 2 ต่อไป เมื่อยานลงสู่พื้นผิวดวงจันทร์ นิล อาร์มสตรอง นักบินอวกาศคนแรกที่ได้ลงเหยียบพื้นผิวดวงจันทร์ ก็นำเครื่องมือตักดินตัวอย่างเพื่อนำมาตรวจสอบบนผืนโลก ทุกย่างก้าวของการปฏิบัติการ อพลโล 11 ได้ถูกกำหนดเวลาเอาไว้แล้วอย่างแน่นอนว่าจะทำอะไร และใช้เวลาเท่าไร จนกระทั่งยานสามารถนำตัวเองกลับคืนสู่พื้นโลกได้อย่างปลอดภัย นักบินอวกาศจำเป็นจะต้องทำภารกิจทุกอย่างตามที่กำหนดไว้ ซึ่งทำให้ อพอลโล 11 สามารถพิชิตดวงจันทร์ได้สำเร็จตามเป้าหมายทุกประการ
ผลงานที่มนุษย์พยายามจะสร้างสรรค์ขึ้นในโลกนี้ ล้วนแล้วแต่จะต้องดำเนินไปตามแผนการที่ถูกกำหนดเอาไว้อย่างเป็นขั้นเป็นตอนเหมือนการเดินทางไปตามเส้นทางที่นำไปสู่ความสำเร็จ พระเจ้าทรงเป็นผู้ให้การดูแลและนำหนทางให้มนุษย์ได้ประสบความสำเร็จอย่างถูกต้องและเหมาะสมตามจังหวะของวันเวลา และโอกาส ความเร่งรีบหรือวิตกกังวลเพื่อจะเร่งรัดให้สิ่งต่าง ๆ สำเร็จไปตามความต้องการของตนเองก่อนถึงเวลา อาจจะทำให้แผนการต่าง ๆ ล้มเหลวลงอย่างสิ้นเชิง โดยที่ ซาร่าห์ ต้องการให้อับราฮัมมีลูกตามคำสัญญาทั้ง ๆ ที่ตนเองยังไม่ได้ตั้งครรภ์ จึงยกนางฮาการ์ สาวใช้ให้เป็นภรรยาของอับราฮามอีกคน โดยคิดว่าความคิดของตนเองนั้นจะทำให้น้ำพระทัยของพระเจ้าสำเร็จ แต่ผลกลับกลายเป็นตรงกันข้ามคือ เกิดมี 2 ชนชาติคือ อาหรับ กับ ยิว ที่ต่อสู้ทำลายล้างกันและกัน มาจนถึงปัจจุบัน ซาราห์ไม่อดทนเพียงพอที่จะรอคอยความสำเร็จที่มาถึงโดยพระเจ้า แต่คิดเอาเองว่าตนจะเป็นผู้ที่ช่วยให้น้ำพระทัยของพระเจ้าสำเร็จจึงส่งผลเสียหายอย่างรุนแรง
ชีวิตของผู้เชื่อในพระเจ้านั้นเป็นชีวิตที่ต้องไว้วางใจและรอคอยความสำเร็จตามคำสัญญา พระเจ้าทรงสัญญากับเหล่าผู้รับใช้ของพระองค์ว่า ฮะบากุก 2 : 3 “เพราะว่านิมิตนั้นยังรอเวลาของมันอยู่ มันกำลังรีบไปถึงความสำเร็จมันไม่มุสา ถ้าดูช้าไปก็จงคอยสักหน่อย มันจะบังเกิดขึ้นเป็นแน่คงไม่ล่าช้านัก” การรอคอยความสำเร็จนั้นดูเหมือนจะล่าช้าตามความคิดของมนุษย์ แต่สำหรับพระเจ้าแล้วเวลาที่จะมาถึงนั้นเป็นจังหวะอันเหมาะสมของคน ๆ อย่างพอดี เพื่อให้ทุก ๆ ช่วงจังหวะชีวิตเป็นไปตามพระประสงค์อันล้ำลึกของพระองค์ ทุกๆ แผนงานอันประเสริฐนั้นจะนำไปสู่การประกาศข่าวแห่งความรอดของพระองค์ทั้งสิ้น การประกาศถึงแผ่นดินของพระองค์นั้นเป็นเหมือนกับเมล็ดแห่งความจริงที่หว่านลงไปในผืนดินแห่งจิตใจของมนุษย์ทุก ๆ คนที่ได้ยินเรื่องราวนั้น อิสยาห์ 55 : 11 “คำของเราซึ่งออกไปจากปากของเราจะไม่กลับมาสู่เราเปล่า แต่จะสัมฤทธิ์ผลซึ่งเรามุ่งหมายไว้และให้สิ่งซึ่งเราใช้ไปทำนั้นจำเริญขึ้นฉันนั้น”
วันหนึ่งเมื่อพระเยซูจะเสด็จกลับมาและนำเราไปสู่ในแผ่นดินของพระองค์ ในวันนั้นจะมีผู้คนจำนวนมากที่เข้ามาพบและขอบคุณที่ผู้รับใช้ของพระองค์ที่ได้นำข่าวประเสริฐมาบอกกับพวกเขา ทำให้เขาเหล่านั้นได้มีโอกาสมาอยู่บนแผ่นดินสวรรค์ร่วมกับพระเยซูคริสต์และได้รับความรอดมีชีวิตนิรันดร์อยู่ในขณะนี้ ด้วยเหตุนี้การรอคอยความสำเร็จที่จะให้เป็นไปตามเป้าหมายวัตถุประสงค์ในแต่ละขั้นตอนของชีวิตนั้น จึงไม่ใช่เป็นการรอคอยด้วยความทุกข์กังวล แต่ควรจะเป็นการรอคอยด้วยความหวังและความชื่นชมยินดี