ชาย-หญิงเกือบทุกคน มักเคยผ่านประสบการณ์เกี่ยวกับอารมณ์ความรู้สึกของความรักและมีอาการที่เราเรียกว่า “ตกหลุมรัก” (Fall in Love) อย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิต จนกระทั่งได้แต่งงานกัน มีชีวิตเป็นสามี-ภรรยากัน และได้อยู่กินด้วยกันฉันท์ครอบครัว แต่อนิจจา! น่าเสียดายที่หลังแต่งงานกันแล้ว สามีภรรยาส่วนใหญ่ก็พบว่า คุณทั้งสองได้กระเด็นออกจาก “หลุมรัก” หรือ “ความเป็นคู่รัก” ได้สูญหายไปจากชีวิตของเขาเสียแล้ว
เหตุใดคู่แต่งงานจึงสูญเสีย “ความเป็นคู่รัก” ที่มีต่อกัน
สามีภรรยามากมาย เมื่อได้อยู่กินด้วยกันและใช้ชีวิตร่วมกันไปได้สักระยะหนึ่ง พวกเขามักจะพบว่า ความรู้สึก “ตกหลุมรัก” ได้อันตรธานไปจากความสัมพันธ์ของพวกเขา ร้ายยิ่งกว่านั้นก็คือ สามีภรรยามากมายคิดว่า ประสบการณ์ครั้งที่ยังเป็น “คู่รัก” กันอยู่นั้น เป็นความรู้สึกทางอารมณ์ที่หลอกลวง และเป็นการเสแสร้งทั้งสิ้น หรือไม่ก็ เป็นความผิดพลาดของชีวิตที่ต้องก้มหน้าก้มตารับกรรมอยู่ทุกวันนี้ แต่ความจริงแล้ว หาเป็นเช่นนั้นไม่ เราไม่จำเป็นต้องก้มหน้าก้มตารับความทุกข์ใจจากชีวิตรักของเราเลย
การที่เราได้กระเด็น “ออกจากหลุมรัก” เกิดจากสาเหตุหลายประการ ที่สำคัญ ก็คือ
1. มีปัญหาในการสื่อสัมพันธ์ คือ ความไม่เข้าใจกัน ไม่รู้จะสื่อความหมายที่แต่ละฝ่ายต้องการให้อีกฝ่ายหนึ่งได้รับรู้ได้อย่างไร ทั้งนี้ก่อนแต่งงานไม่ได้ตรวจสอบระบบสื่อสัมพันธ์กันอย่างละเอียดถี่ถ้วน เมื่อมาเป็นสามีภรรยากันแล้วจึงพบว่า การสื่อสัมพันธ์ ที่มีอยู่ไม่มีพื้นฐานที่ดีเพียงพอ
2. มีปัญหาบุคคลที่สาม คือ บุคคลอื่นๆ ที่นอกเหนือจากสามีภรรยา ได้เข้ามามีส่วนพัวพันด้วย ทำให้ “ความเป็นคู่รัก” ของทั้งสองคนนั้น ต้องแบ่งปัน ความรัก เวลา กำลัง และทรัพยากรณ์ชีวิตอื่นๆ ให้กับบุคคลอื่นๆเหล่านั้น เช่น พ่อแม่ ญาติพี่น้องของทั้งสองฝ่าย หรือ แม้กระทั่งลูกๆของตนเองก็ตาม ดังนั้นจึงทำให้สามีภรรยาคนใดคนหนึ่งหรือทั้งสองคน ให้และรับ ความรักแก่กันไม่เพียงพอ ความสัมพันธ์ที่มีต่อกันนั้นก็ค่อยๆห่างเหิน
3. มีปัญหาด้านการเงิน คือ ก่อนแต่งงานหนุ่มสาวส่วนใหญ่มักคิดว่า อยู่กันด้วยความรักได้ เรื่องเงินทองไม่สำคัญ แต่พอมาอยู่กินด้วยกันจริงๆ ก็เริ่มรู้แล้วว่า ความรักที่ไม่มีเงินพอเสียค่าเช่าบ้าน ค่าอาหารค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าแก็ส รวมทั้ง ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นอื่นๆ หรือ เขาอาจมีเงินเพียงพอแต่ไม่เห็นพ้องกันในเรื่องการใช้จ่ายของครอบครัว ก็สามารถสร้างความตึงเครียดในการดำเนินชีวิตครอบครัว ซึ่งส่งผลกระทบต่อ “หลุมรัก” ของเขาทั้งสองได้
4. มีปัญหาเรื่องเพศสัมพันธ์ คือ ก่อนแต่งงาน “คู่รัก” ทั้งสอง อาจคาดหวังเรื่องเพศจากกันและกันไว้มาก แต่ประสบการณ์เพศสัมพันธ์ของคู่แต่งงานไม่ได้ถึงมาตรฐานตามความเฟ้อฝันของกัน สามีภรรยาจึงครุ่นคิดไปว่า คู่ชีวิตของเราคงมีอะไรผิดปกติ และตัวเราเองไม่มีอะไรผิดปกติ จึงทำให้ความสัมพันธ์ทางเพศ ไม่ได้มีความสุขที่พึงพอใจแก่เราตามที่คาดหวังรอคอยมา ความผิดหวังทางเพศ จึงเป็นเมฆดำที่บังแสงสดใสของ “ความเป็นคู่รัก” ที่มีต่อกันไป
นอกจากปัญหาดังกล่าวข้างต้นแล้ว ยังมีปัญหาอื่นๆอีก ที่เป็นแรงผลักดันให้ “ความเป็นคู่รัก” นั้นสูญหายไปจากชีวิตแต่งงานได้อย่างง่ายดาย
เราจะรักษา “ความเป็นคู่รัก” ระหว่างสามีภรรยา ได้อย่างไร?
1. ความรักของสามีภรรยา ต้องมีการให้ต่อกัน ด้วยความเสียสละเสมอๆ เราต้องเข้าใจและยอมรับว่า ความรัก คือ การให้ ตัวเราเองแก่กันและกัน ไม่ว่าเราจะมีอารมณ์ความรู้สึกที่จะทำเช่นนั้นหรือไม่ก็ตาม เพราะความรักมีการเจริญเติบโตไปตามขั้นตอน นอกจากความโรแมนติคแล้ว ความรักต้องเพิ่มด้วยองค์ประกอบอื่นๆอีกหลายประการเพื่อความสัมพันธ์ของ “คู่รัก” จะรับการสร้างสรรค์ให้เป็น คู่ชีวิตที่สมบูรณ์แบบมากขึ้น และองค์ประกอบที่สำคัญของความรักประการหนึ่งก็คือ “การให้ ด้วย ความเสียสละ”
2. ความรักของสามีภรรยา ต้องหาโอกาสและวิถีทาง ที่จะทำคุณประโยชน์ให้แก่กันเสมอ สามีภรรยาส่วนมาก มักดำเนินชีวิตอย่าง เห็นแก่ตัว เราอาจเห็นแก่ตัว เกือบจะทุกส่วนในชีวิตครอบครัวของเรา เช่น ความเห็นแก่ตัวในเรื่องการปฏิบัติต่อกัน เราอยากให้เขาปรนนิบัติเราหรือทำงานบ้านมากกว่า ความเห็นแก่ตัวเรื่องใช้เงิน ใช้อำนาจ ความคิดเห็น การเลี้ยงลูก แม้กระทั้งความสัมพันธ์ทางเพศระหว่างสามีภรรยาก็ตาม สามีภรรยามักเอา ความต้องการ ของตนเป็นใหญ่ แต่ถ้าหากเราต้องการให้ ความเป็นคู่รัก ดำรงอยู่อย่างมั่นคงในชีวิตแต่งงาน สามีภรรยา ต้องพัฒนาความรักให้เติบโต จนถึงขนาดที่ความรักของเรา มีแต่การ หาโอกาส ที่จะปรนนิบัติ และ ทำคุณประโยชน์ให้แก่กันและกันด้วยความจริงใจและด้วยความยินดี
3. ความรักของสามีภรรยา ต้องขึ้นอยู่กับ “การกระทำ”ที่ออกมาจากใจที่สัตย์ซื่อ สามีภรรยามากมายที่รักด้วยความตั้งใจที่ดีและพูดว่า “รัก” ได้อย่างน่าเชื่อถือศรัทธา แต่น่าเสียดายที่ความรักนั้นปราศจากการกระทำที่ดี เพราะว่า ความรักที่ปราศจากการกระทำ ก็เป็นความรักที่ตายแล้ว และจะส่งผลกระทบต่อ “ความเป็นคู่รัก” ของสามีภรรยาอย่างแน่นอน
ดังนั้น สามีภรรยาต้องช่วยกันพัฒนาความรักให้เติบโตขึ้น โดยไม่อาศัยความตั้งใจที่ดี หรือ คำพูดที่ไพเราะหูเท่านั้น แต่ต้องขึ้นอยู่กับ การกระทำที่ดี ซึ่งออกมาจากใจที่สัตย์ซื่อด้วย สามีภรรยาที่ตั้งใจ และ หมั่นฝึกฝน พัฒนาความรักต่อกันเสมอๆ ตามเงื่อนไขแห่งความรัก ทั้งสามประการดังกล่าวข้างต้น จะแปลกใจที่พบว่า ความรู้สึกแห่ง “ความเป็นคู่รัก” หรือ อารมณ์ของการ “ตกหลุมรัก” จะค่อยๆกลับมาหาคุณทั้งสองอีก อย่าเสียใจหรือเสียดายความรู้สึกของ “การเป็นคู่รัก” ที่สูญหายไปในอดีต แต่จงสร้างมันขึ้นมาใหม่ แล้วจงเก็บรักษามันไว้ตลอดไป
ความรัก คือ การให้ โดย ให้ชีวิตแก่กัน ด้วย ความเสียสละอย่างแท้จริง
ความรัก คือ การกระทำคุณให้ และปราศจากความเห็นแก่ตัว โดย กระทำคุณประโยชน์ ด้วย ความจริงใจและยินดี
ความรัก คือ ความตั้งใจที่ดี คำพูดที่ดี และการกระทำดีต่อกัน โดย ความรักนั้น ไม่มีวันสูญสิ้น ไปจากชีวิตของเรา
เพราะว่า “ความรัก ย่อมผูกพัน ทุกสิ่งไว้ ให้ถึงซึ่งความสมบูรณ์”